top of page
WORLD
INSPIRE

เพลงรักนิรันดร์

การกลับมารวมตัวกันเพื่อร้องเพลงรักอีกครั้ง

NICHA PALWATWICHAI
23 JANUARY 2018

ดึกดำบรรพ์ Boy Band เป็นวงดนตรีที่มีสมาชิก 3 คน

แต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมย์

ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว

ตุ่น-พนเทพ สุวรรณะบุณย์

สองคนแรกเป็นศิลปินที่ออกผลงานมาแล้วคนละสิบกว่าอัลบั้ม

คนสุดท้ายเคยเป็นโปรดิวเซอร์มือทองของค่ายแกรมมี่ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักร้องและเพลงฮิตมากมาย

ถ้าเอาเพลงฮิตของพวกเขาสามคนมาเล่นต่อกันน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำว่า 4 ชั่วโมง

การรวมตัวกันตั้งวงดนตรีของศิลปินรุ่นใหญ่ 3 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกันมากว่า 40 ปี เป็นเรื่องน่าสนใจ

และยิ่งน่าสนใจขึ้น เมื่อพวกเขารวมตัวกันตั้งวงในวัย 65 ปี

ถ้าคุณกำลังนึกถึงหนังที่ตัวละครในวัยเยาว์กำลังตามฝันด้วยการตั้งวงดนตรี เรื่องราวของชาย 3 คนนี้ น่าจะเป็นภาคสองของหนังพวกนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เพลงที่ 1 หน้า A

เสียงกีตาร์โปร่งฟังสบายโชยออกมาจากบ้านขนาดกะทัดรัด กลางซอยเล็กๆ ย่านสะพานควาย

ภายในบ้าน มีผู้ชายสามคนซึ่งเกิดปีเดียวกันกำลังเล่นดนตรีอยู่ด้วยกัน

ย้อนกลับไปหลายวันก่อน ปั่น-ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว นั่งรถเมล์กลับบ้านพร้อม ตุ่น-พนเทพ สุวรรณะบุณย์ พอเห็นว่าบ้านอยู่ทางเดียวกัน ปั่นจึงเอ่ยปากขอไปเที่ยวบ้านตุ่น หลังจากนั้นพวกเขาก็ชวน แต๋ม-ชรัส เฟื่องอารมย์ เพื่อนอีกคน มาเล่นดนตรีด้วยกันที่บ้านของตุ่น

พวกเขารักเสียงเพลงเหมือนกัน ต่างคนต่างมีวงดนตรีและวงโคจรของตัวเอง แต่ดนตรีก็ดึงดูดพวกเขาให้มารวมตัวกันเล่นดนตรีที่บ้านหลังนี้

พวกเขาคือเด็กหนุ่ม นักศึกษารุ่นแรกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ปฏิทินข้างฝาบอกว่า นี่คือปี 2514

 

เพลงที่ 2 หน้า A

ต้นปี 2561 เย็นวันศุกร์ที่ลมหนาวหวนมาหากรุงเทพฯ อีกครั้ง

เสียงดนตรีสบายหูยังคงลอยคลอเคลียลมหนาวเหนือบ้านหลังนี้

เสียงนั้นลอดออกมาจากบานประตูที่ปิดไม่สนิทของห้องซ้อมบนชั้นสาม มันเป็นเสียงของเพลง In the darkness of my life เพลงสากลที่แต๋มแต่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต๋มเป็นคนเก่งภาษาไทย ถนัดเขียนกาพย์กลอน จึงเขียนเนื้อเพลงได้รวดเร็วและลื่นไหล แล้วเขาก็ยังมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี ในระดับที่ร้องและแต่งเพลงภาษาอังกฤษได้สบาย

ในห้องซ้อม ผู้ชายสามคนซึ่งเกิดปีเดียวกัน กำลังเล่นและร้องเพลงนี้

พวกเขากำลังซ้อมเพลงนี้สำหรับคอนเสิร์ต ‘ดึกดำบรรพ์ #201 ปั่น แต๋ม ตุ่น Concert’

เลข 201 คืออายุรวมของพวกเขา

แต๋มและปั่น ผ่านการขึ้นเวทีคอนเสิร์ตรวมกันมาหลายพันครั้ง เพราะพวกเขาอยู่บนเส้นทางดนตรีมาเนิ่นนาน แต่คอนเสิร์ตครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่นๆ ตรงที่ ปั่น แต๋ม ตุ่น กำลังจะเล่นคอนเสิร์ตร่วมกันในนาม ‘ดึกดำบรรพ์ บอยแบนด์’ วงดนตรีที่พวกเขาร่วมกันตั้งเมื่อปี 2559

ในวัย 65 ปี

พวกเขาไม่ได้เอาเพลงเก่ามาร้องใหม่เป็นรอบที่ล้าน แต่หยิบเพลงฮิตที่ทั้งสามมีส่วนร่วม ทั้งเพลงที่แต๋มกับปั่นร้อง และเพลงที่ตุ่นแต่ง มาเรียบเรียงดนตรีใหม่ ออกแบบการร้องใหม่ จนกลายเป็นเพลงใหม่ที่มีกลิ่นอายของเพลงยุค 70 และเสียงประสานแบบวง Bee Gees

พวกเรายืนฟังเพลงรออยู่หน้าห้องซ้อม ผมโตมากับเพลงเก่าเหล่านี้ น้องช่างภาพพอจะคุ้นบ้างกับบางเพลง ส่วนน้องฝึกงานเพิ่งเคยได้ยินเพลงและรู้จักศิลปินทั้งสามเป็นครั้งแรก แต่พวกเราทุกคนต่างเคลิ้มไปกับท่วงทำนองที่ได้ยิน

ไม่ต้องสนใจว่ามันคือเพลงใหม่หรือเพลงเก่า เพราะเพลงเพราะก็คือเพลงเพราะ

การซ้อมช่วงอะคูสติกจบลงแล้ว ประตูห้องซ้อมเปิดออก สมาชิกอีก 4 คน เดินเข้าไปสมทบเพื่อซ้อมแบบเต็มวง เพลงแล้วเพลงเล่าผ่านไป จนมาถึงเพลง รักนิรันดร์ เพลงที่มีความหมายมากมายเหลือเกิน

เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มแรกของปั่น ปี 2528 เป็นเพลงที่ตุ่นทำให้ปั่น และเป็นเพลงเปลี่ยนชีวิตที่ทำให้ปั่นแจ้งเกิดในฐานะนักร้องหน้าใหม่ได้อย่างสวยงาม

2 ปีก่อน ตุ่นมีคอนเสิร์ตของตัวเองชื่อ ‘รักนิรันดร์’ เขาชวนเพื่อนพ้องที่เคยทำงานร่วมกันมาเป็นแขกรับเชิญ แน่นอนว่าต้องมีสองเพื่อนซี้อย่างแต๋มและปั่น แต่จะให้ทั้งคู่มาร้องเพลงของตัวเองแบบเดิมๆ ก็ธรรมดาไป พวกเขาเลยรวมเป็นวงแล้วลองเล่นด้วยกันแบบอะคูสติก

ตุ่นปล่อยคลิปการซ้อมของพวกเขาลงในโลกออนไลน์ ผลตอบรับที่ได้กลับมาดีมาก มีทั้งคนชอบ และคนชวนให้ไปเล่นตามงานต่างๆ จนพวกเขาคิดว่า จะมาทำเล่นๆ ให้เสียชื่อรุ่นใหญ่ไม่ได้ เลยเร่งมือพัฒนาวงของพวกเขาขึ้นเรื่อยๆ

ในคอนเสิร์ตรักนิรันดร์ พอถึงช่วงที่เพื่อนทั้งสามต้องเล่นด้วยกัน ตุ่นประกาศให้คิว แต่แต่๋มกับปั่นก็ยังไม่ยอมขึ้นเวทีสักที จนตุ่นต้องออกตัวผ่านไมโครโฟนว่า “พวกเราเป็นพวกดึกดำบรรพ์ จะทำอะไรก็ช้า” ดึกดำบรรพ์จึงกลายมาเป็นชื่อวงโดยบังเอิญ

กรุณาเบาเสียงลงสักนิด ท่องฮุคเพลง รักนิรันดร์ กำลังจะมา

“ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์”

 

 

"อย่างน้อยเราก็ยังทำให้คนฟังยิ้มไปกับเราได้ แค่นี้ก็สุขเกินพอ"

  • Facebook Social Icon
  • Twitter Social Icon
  • Pinterest Social Icon
bottom of page